การโรลต่อสู้

ขณะที่โรลภารกิจ จะบังคับให้ใช้ลำดับการโรลตามกฏของคอมมู เป็นการโรลโต้ตอบกันระหว่างจุนซุยและอินไซเดอร์ โดยขอให้ใช้กฎการต่อสู้ของมูเป็นหลักในการโรล และมีลำดับ Algorithm แบบสลับกันโรลของสองฝั่ง

กฏการต่อสู้แบบ GDocs

การเริ่มเม้นแรก

1. ห้ามโจมตีเม้นแรก
2. ต้องบอกตำแหน่งของตัวเองระยะห่างเวลาเริ่ม
3. บอกลักษณะท่าทางตัวเองเวลาเริ่มว่าอยู่ในท่าไหน
4. ต้องบอกว่าตนเองพกอะไรไปบ้างของทุกชิ้นทุกอย่างที่ใช้ในการต่อสู้ แต่เรื่องความสามารถของอาวุธค่อยบอกเวลาใช้ก็ได้ (จะเข้มในการแข่ง)

การทำดาเมจหรือการโจมตี

1. ควรระบุให้แน่ชัดว่าเริ่มกระทำอย่างไรกระทำแบบไหนกระทำตรงไหนของร่างกายอีกฝ่ายหรือกระทำตรงส่วนไหน “ต้องละเอียด”
2. การกระทำดาเมจใดๆ ห้ามกระทำแบบไม่ให้อีกฝ่ายตอบโต้ได้ อย่างเช่น วาจาศักสิทธิ์ “คาเร็นเลือดออกหมดตัวตาย” แล้วไม่กี่วิถัดมาคาเร็นเลือดออกหมดตัวตายจริงๆ
3. ต้องคอมเม้นท์คนละ 1 เม้นสลับกัน การพิมพ์มา 2 เม้นรวดเดียวจะถือว่าผิดกฎ ยกเว้นว่าจำนวนตัวอักษรไม่พอ

4. ภายใน 1 คอมเม้นท์ สามารถ โจมตีได้สูงสุด 3 ครั้ง (3 Actions) นับรวมกับอะไรที่ส่งผลต่ออีกฝ่ายด้วย

   ตัวอย่าง

   • การกระทำที่ส่งผลต่ออีกฝ่ายครั้งเดียวนับ 1 แต่ถ้ากระทำส่งผลต่ออีกฝ่าย เป็นการย้ำหรือซ้ำในวินาทีนั้นด้วยการโจมตีรูปแบบเดิมจุดเดิมก็นับ 1 เช่นกัน เช่นรัวหมัดใส่ท้องอีกฝ่าย 10 หมัด หรือจะ เหนี่ยวไกยิงกระสุนรัวใส่ท้องอีกฝ่ายจนหมดแม็ก
   • การกระทำที่สงผลต่ออีกฝ่ายแต่แตกต่างรูปแบบกันไป เช่น ใช้มีดแทงเข้าท้องอีกฝ่ายแล้วบิดมีด นับ 2 ครั้งเพราะเป็นการกระทำที่ต่างกัน
   • การกระทำที่กระทำคล้ายกันเช่น จิ้มเข็มเข้าตัวอีกฝ่ายแล้วดึงออกทันที นับ 1 ถ้าจิ้มจุดอื่นนับ 2 แต่ถ้าจิ้มจุดเดิมหรือรอบๆจุดเดิมที่ห่างไม่เกิน 5เซนติเมตร ในเวลาติดต่อกันเป็นเสี้ยววินาทีหรือจิ้มจุดเดิมรัวๆ นับ 1 ครั้ง
   • การวางกับดักหรืออะไรที่เป็นผลที่จะก่อให้เกิดการโจมตีในเทิร์นหน้าของตน ก็ นับ 1 ต่อชิ้นหรือต่อครั้ง
   • การเปลี่ยนโหมดของอิรุกะ นับเป็น 1 ครั้ง (ไม่มีคูลดาวน์)

5. สามารถแก้ไขคำผิดในเม้นของตัวเองได้ แต่อย่าแก้ไขการโจมตีหรือการรับดาเมจเมื่ออีกฝ่ายพิมพ์ลงแล้วเด็ดขาด ถ้าเกิดกรณีเผลอกดส่งก่อนจะพิมพ์เสร็จให้เม้นบอกทันทีว่า “พิมพ์ยังไม่เสร็จ” ก่อนจะลบเม้นนั้น

6. การทำดาเมจในกรณีที่อีกฝ่ายอยู่ในที่ที่สามารถระบุได้ยากหรือระบุไม่แน่ชัดควรบอกไว้ด้วยว่าสามารถเห็นอีกฝ่ายได้ยังไงก่อนจะเข้าไปโจมตี
7. ห้ามใช้คำคลุมเครือหรือคำที่ระบุแน่ชัดไม่ได้ เช่น คาดว่า,แม้ว่า,อาจจะ และอื่นๆตามสถานะการณ์
8. แต่ละการโจมตีแต่ละครั้งนั้นต้องระบุเอฟเฟคต์ ความเสียหาย หรือเหตุการณ์ที่เป็นผลของการโจมตีนั้นๆด้วย

การรับดาเมจ และการหักล้าง

การรับดาเมจ

1. การรับดาเมจแบบตรงๆ เราต้องเขียนอะไรที่บ่งบอกว่าดาเมจนั้นโดนเราแบบไหนอะไรยังไง ด้วย
2. การรับดาเมจแบบตอบโต้กลับ สามารถทำได้แต่ห้ามเกินความเป็นจริงของตัวละครและห้ามพิมพ์ในลักษณะที่บ่งบอกว่า “อีกฝ่ายนั้นยังไม่ได้ทำการโจมตีมา” เราต้องเขียนอะไรที่บ่งบอกว่าดาเมจนั้นโดนเราด้วยและเราโต้กลับต้องบอกด้วยว่าดาเมจที่เรารับจากการโจมตีของเขานั้นขัดขวางการโจมตีสวนของเราได้แค่ไหน เช่น การต่อสู้ในระยะประชิดที่ไม่ได้ปลิดชีพทันทีหรือน็อค แต่ถ้าไม่เกิดการขัดขวางการโจมตีสวนแบบรับดาเมจนั้นก็แล้วไป

การไม่รับดาเมจหรือหักล้างดาเมจ

1. การไม่รับดาเมจนั้นหรือปัดป้อง สามารถทำได้แต่ห้ามเกินความเป็นจริงของตัวละครและห้ามพิมพ์ในลักษณะที่บ่งบอกว่า “อีกฝ่ายนั้นยังไม่ได้ทำการโจมตีมา”
2. การจะหักล้างดาเมจ เช่นการที่อีกฝ่ายนั้น โจมตีมา 3 ครั้งแล้วเราหลบดาเมจนั้นตั้งแต่การโจมตีครั้งแรก การโจมตีครั้งที่ 2 - 3 ของอีกฝ่ายนั้น จะไม่เกิดขึ้นเลย แต่ถ้าเป็น ในกรณีอื่น ก็ให้คิดอิงตามหลักความเป็นจริง
3. การหักล้างดาเมจในกรณีที่อีกฝ่ายพุ่งเข้ามาในที่ที่สามารถระบุได้ยากหรือระบุไม่แน่ชัดควรบอกไว้ด้วยว่าสามารถเห็นอีกฝ่ายได้ยังไงก่อนจะเข้าไปหักล้างดาเมจ

การใช้สกิลหรือท่าที่มีชื่อ

การใช้ท่าหรือสกิลครั้งแรกในการต่อสู้ของโพสต์นั้นๆ แต่ละครั้งควรบอกรายละเอียดของท่าหรือสกิลนั้นๆด้วย “ห้ามแปะลิงค์เด็ดขาด”

ห้ามใช้สกิลบังคับอีกฝ่าย

สกิลที่ หลบไม่ได้/แก้ไม่ได้ ถือว่าเป็นสกิลบังคับ แต่ถ้า หลบได้/แก้ไม่ได้ หรือ หลบไม่ได้/แก้ได้ ถือว่าได้เช่นกัน แต่การแก้สกิลต้องไม่เฉพาะจนเกินไป

ห้ามเมินสกิลและการกระทำของอีกฝ่าย

ห้ามเมินสกิลและการกระทำของอีกฝ่าย และไม่ควรตัดสกิลอีกฝ่ายมากเกินไปจนเกินเหตุเกินผล ให้เน้นความสมจริงเป็นหลัก

สกิลเซอร์ไพร์

ห้ามใช้สกิลเซอร์ไพร์เด็ดขาด เช่น วิ่งผ่านศัตรู แล้วอีกเม้นเพิ่งมาบอกว่าอีกฝ่ายตัวขาด โดยบอกว่าฟันไปแล้วตั้งแต่เม้นที่แล้ว แบบนี้อีกฝ่ายจะแก้ไม่ได้

ในกรณีสายกลยุทธ์ อนุญาติให้ไม่บอกสกิลกับดักที่ตนวางได้ เช่น ทิ้งกับระเบิดวางลงพื้น เป็น ตนก็ได้วางวัตถุบางอย่างโดย…. หรือวางกับดักต่างๆไว้ แต่หากอีกฝ่ายถามว่าวางกับดักไว้ตอนไหน ก็ต้องบอกได้ด้วย ไม่ใช่ บอกไม่ได้ว่าวางไว้ตอนไหน

ห้ามสกิลหยั่งรู้อนาคต

ห้ามใช้สกิลที่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร ทั้งที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ห้ามหลบโดยใช้เหตุผลพวกนั้น อย่างเช่น “A เข้าไปประชิดตัวคาเร็นชกหน้าด้านซ้ายคาเร็นด้วยมือขวา จังหวะนั้นชี้นิ้วมือซ้ายไปหาคาเร็นเกิดลำแสงยิงจากนิ้วทะลุร่างคาเร็น แต่คาเร็นมองนิ้วรู้แล้วรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เลยเอียงตัวหลบพ้น(ทั้งที่ยังไม่ปล่อยก็หลบได้แล้วหรือไม่มีอะไรบอกว่าเขาทำได้แบบนั้น)” นี้เขาเรียกว่าสกิลหยั่งรู้อนาคต ถ้าใช้เหตุผลนี้ในการหลบ จะถือว่าโดนดาเมจ เพราะการทำแบบนั้นก็เริ่มเบียวละ “ผปค.รู้ ตัวละครต้องไม่รู้”

เน้นเรื่องความสมจริงจากสถานะการณ์รอบๆ

ตระหนักถึง ระดับความสามารถตัวละครของตัวเองและความสามารถของผู้ที่ต่อสู้ด้วย ห้ามเรื่องที่แบบ “ริกะขั้นต้น ต่อสู้ด้านพลังและความเร็ว ได้สูสีกับหัวหน้าคาเร็นที่เป็น หัวหน้าเขตระดับมาสเตอร์ แล้วใช้ท่านิดหน่อยก็ฆ่าหัวหน้าเขตได้แล้ว” แบบนี้ก็แย่อยู่นะ ใครที่กระทำอยู่ถ้าอีกฝ่ายจะมองข้ามเม้นที่มันพลังเกินตัวก็ไม่ผิด

สามารถใช้อุปกรณ์หรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่ในสถานที่ได้ตามความเหมาะสม

---

เพิ่มเติม เรื่องการใช้อาวุธ

1. หากเป็นอาวุธปืนควรมีการหมดกระสุนโดยอิงจากรุ่นปืนที่ใช้ และควรระบุว่าพกมากี่แมกกาซีนในการต่อสู้

2. หากเป็นธนู ควรบอกว่าพกลูกธนูมากี่ลูก

3. หากเป็นระเบิดควรระบุรัศมีการทำลายเท่าไหร่พกมากี่ลูก (ให้รุบะมาในดอคการต่อสู้)

4. ห้ามอุปกรณ์หรืออะไรที่มันสามารถอ่านอนาคตได้(เพื่อความสนุกของทุกๆคนขอความร่วมมือด้วย)

เพิ่มเติม กฎในหนึ่งเทิร์น

1. ในการเคลื่อนไหวทุกครั้งให้บอกด้วยว่าเคลื่อนไปในทิศทางใด

2. ทำดาเมจได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ยกเว้นบางกรณี

3. หากต้องการเม้นเพิ่มเติมหรือข้อมูลอ้างอิงให้ใต้เม้นของตัวเองอีกที